
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลจากการจัดเก็บรายได้ล่าสุด ระบุว่า ในช่วง 5 เดือนของปีงบประมาณ 2565 ที่ผ่านมา รัฐบาลสามารถจัดเก็บได้เกินกว่าเป้าหมายถึง 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งประเมินว่าการจัดเก็บรายได้ทั้งปีน่าจะเป็นไปได้ตามเป้าหมาย
สิ่งที่ต้องตามกันต่อ คือการจัดเก็บรายได้ในเดือนเมษายน-พฤศภาคม นี้ว่าเป็นอย่างไร หากดูฐานะการคลังตอนนี้ ถือว่าอยู่ได้แล้ว แต่หากรัฐบาลสามารถจัดเก็บได้เกินเป้าหมาย ก็จะมีเม็ดเงินส่วนเกินที่จะมาช่วยเหลือประชาชนได้
ส่วนมาตรการบรรเทาปัญหาค่าครองชีพจากวิกฤตราคาพลังงาน คาดว่าในสัปดาห์หน้าอาจมีหลายมาตรการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. ซึ่งเท่าที่ดูในตอนนี้ยังมีเงินเพียงพอในการออกมาตรการต่างๆ
สำหรับแนวคิดการขยายโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ปัจจุบันอยู่ระหว่างประเมินว่า ควรจะต้องขยายหรือต่ออายุหรือไม่ ซึ่งจะรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนก่อน หากเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ ก็ต้องชะลอความช่วยเหลือ
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง บอกว่า การเพิ่มเงินในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ กำลังพิจารณาว่าจะใช้เงินจากแหล่งมดมาดำเนินโครงการ ตรงนี้ขอเวลาให้คณะทำงานพิจารณาก่อน
เบื้องต้นมีการรายงานว่า ขณะนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะใช้เงินจากแหล่งใด แต่มีการยืนยัน ออกมาจากกระทรวงการคลังว่า หากจำเป็นต้องเปิดโครงการใหม่ก็มีเงินเพียงพอแน่นอน