
‘Goldman Sachs’ ธนาคารเพื่อการลงทุนข้ามชาติของสหรัฐฯ จะมีชาวอเมริกันอย่างน้อย 750,000 ครัวเรือนที่จะถูกฟ้องขับไล่ออกจากที่พักในช่วงปลายปีนี้ หากสภาคองเกรสไม่บังคับต่ออายุใช้คำสั่งห้ามการขับไล่ใหม่
มีการประมาณการว่าชาวอเมริกันราว 2.5 – 3.5 ล้านครัวเรือน ตกอยู่ในความเสี่ยงของการถูกฟ้องขับไล่ เนื่องจากไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ค่าเช่าบ้านได้ เนื่องจากพิษเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากโรคระบาด และอัตราการว่างงานที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคิดเป็นยอดค้างชำระรวมกันราว 12,000 – 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 387,222 – 548,564 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ระบุไว้ในรายงานว่า ผู้เช่าบ้านเหล่านั้นจะยังคงได้รับการคุ้มครองไม่ให้ถูกฟ้องขับไล่ แม้จะไม่ได้จ่ายค่าเช่าไปอย่างน้อยถึงเดือนตุลาคม จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วศาลฎีกาได้ยกเลิกคำสั่งห้ามการขับไล่ของรัฐบาลนายโจ ไบเดน ซึ่งบ่งชี้ว่าต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมจากสภาคองเกรส ในขณะเดียวกันมาตรการระงับการฟ้องขับไล่ในรัฐต่างๆ ส่วนใหญ่ของประเทศกำลังจะถึงกำหนดหมดอายุในเดือนหน้า
“การสิ้นสุดการเลื่อนการพักชำระหนี้ค่าเช่าบ้าน และกระบวนการฟ้องขับไล่มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้อัตราการขับไล่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เว้นแต่จะมีการแจกจ่ายเงินช่วยเหลือค่าเช่าฉุกเฉิน หรือ Emergency Rental Assistance (ERA) ในเร็วๆ นี้หรือรัฐสภาจะต้องใช้อำนาจเข้ามาจัดการกับปัญหา”

หากไม่มีความช่วยเหลือที่เร็วกว่าหรือกฎหมายใหม่ Goldman Sachs ประมาณการว่า 750,000 ครัวเรือนจะต้องถูกขับไล่ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวนี้ ธนาคารแห่งวอลล์สตรีทตั้งข้อสังเกตว่า ประมาณครึ่งหนึ่งของการยื่นฟ้องขับไล่เป็นผู้ที่ค้างชำระหนี้ระหว่างปี 2549 – 2559
ความช่วยเหลือที่ล่าช้าจากรัฐ
ส่วนหนึ่งของปัญหาดูเหมือนจะมาจากการได้รับความช่วยเหลือที่ล่าช้าจากรัฐบาล นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ได้เขียนว่ากระบวนการคืนค่าเช่าคืนผ่านโครงการช่วยเหลือการเช่าฉุกเฉินนั้น “ช้าอย่างน่าผิดหวัง” แม้ว่ากระทรวงการคลังของสหรัฐฯ จะแจกจ่ายเงินจำนวน 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 806,525 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลของรัฐในระดับท้องถิ่น แต่สามารถกระจายเงินจำนวนนี้ไปยังท้องที่ต่างๆ ได้เพียงแค่ 4,500 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 14,5174 ล้านบาทเท่านั้น
สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรประมาณการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าผู้คนประมาณ 1.3 ล้านคนมีแนวโน้มที่จะถูกขับไล่ในอีก 2 เดือนข้างหน้า อีกทั้งมีข้อมูลว่า จำนวนผู้ขอความช่วยเหลือค่าเช่าฉุกเฉินมากกว่า 2.2 ล้านคนผ่านรัฐบาลท้องถิ่น แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

“ความแข็งแกร่งของตลาดที่อยู่อาศัยและให้เช่าประเมินว่า เจ้าของบ้านจะพยายามขับไล่ผู้เช่าที่ค้างชำระค่าเช่าเว้นแต่จะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง และการขับไล่อาจมากเป็นพิเศษในเมืองต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดมากที่สุด”
หากเกิดวิกฤตการขับไล่ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความลำบากให้แต่ละครอบครัวชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อการระบาดใหญ่และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย
เอกสารคำฟ้องเตรียมถามโถมล้นศาล
Goldman Sachs ประเมินการอัตราการจ้างงานที่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจากการการขับไล่ผู้คนออกจากบ้านกว่า 750,000 คนและการผ่อนคลายอัตราเงินเฟ้อในปี 2565 มีผลกระทบเป็นนัยสำคัญอย่างมากต่อการที่จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และสุขภาพของประชาชนน่าจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่านี้
ฝ่ายนิติบัญญัติของพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้มีการดำเนินการของรัฐสภาภายหลังการตัดสินใจของศาลฎีกาที่จะระงับการคำสั่งห้ามฟ้องขับไล่เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะสามารถรวบรวมคะแนนเสียงเพื่อระงับการเลื่อนการชำระหนี้ ฝ่ายบริหารของไบเดนกำลังหันความสนใจไปที่การกดดันสภาสูง ศาลของรัฐและหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อปกป้องผู้เช่า

อัยการสูงสุด ‘เมอร์ริค การ์แลนด์’ ตือนว่าการยื่นฟ้องขับไล่จะเพิ่มระดับก่อนเกิดโรคระบาดเป็น 2 เท่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่เขาเรียกร้องให้ทนายความทำในสิ่งที่ทำได้เพื่อช่วยให้ผู้เดือดร้อน
“อาสาสมัครกับผู้ให้บริการช่วยเหลือทางกฎหมายในพื้นที่ของคุณหรือเข้าร่วมโครงการทางคลินิกของโรงเรียนกฎหมายของคุณ ผู้คนจำเป็นต้องให้คำปรึกษาหรือเป็นตัวแทนทางกฎหมายแก่ผู้เช่า ในขณะที่พวกเขาขอความช่วยเหลือในการเช่า ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับเจ้าของบ้าน หรือฟ้องคดีฟ้องขับไล่ในศาล”

ด้านกรมธนารักษ์ระบุว่า ผู้เช่าได้เงินช่วยเหลือค่าเช่าของรัฐบาลกลางเงินเพียง 10% ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม การส่งมอบความช่วยเหลือที่ล่าช้าได้กระตุ้นให้กลุ่มที่อยู่อาศัยราคาไม่แพงบ่นว่าโครงการดังกล่าวเกิดการฉ้อโกงมากเกินไปและกล่าวหาว่าผู้ว่าการรัฐ และนายกเทศมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต
‘การ์แลนด์ เจเน็ต เยลเลน’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ‘มาร์เซีย ฟัดจ์’ รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมือง เรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐ นายกเทศมนตรี และผู้บริหารเทศมลรัฐ ออกกฎหมายสั่งห้ามขับไล่ในจดหมายเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม

เลขาธิการคณะรัฐมนตรียังกดดันให้เจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกับศาลเพื่อขอให้เจ้าของบ้านยื่นคำร้องเพื่อขอความช่วยเหลือในการรับค่าเช่าฉุกเฉินก่อนการขับไล่ และให้ระงับการดำเนินการขับไล่ในขณะที่การยื่นคำร้องยังอยู่ระหว่างรอดำเนินการ
ปัจจุบันมีเพียง 6 รัฐและใน กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เท่านั้นที่มีคำสั่งห้ามการขับไล่ และอีก 10 รัฐได้ออกกฎหมายคุ้มครองผู้เช่าบางรูปแบบขณะที่รอการแจกจ่ายความช่วยเหลือ ในรัฐที่ไม่มีการคุ้มครอง ศาลกำลังจะถูกถาโถมด้วยกองเอกสารการยื่นคำร้องขับไล่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
แหล่งอ้างอิง
https://cnn.it/2V0jyuG
https://bloom.bg/3t4qJ1I
https://politi.co/3sZiCDk