
นายกฯ กังวลพิษสงคราม รัสเซีย-ยูเครนลากยาวทำราคาปุ๋ย-อาหารสัตว์แพงต่อเนื่อง กระทบเกษตรไทย พาณิชย์รับเรื่องเอกชน ขอยกเลิกจำกัดการนำเข้า 3:1
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีฯ กล่าวว่ามีความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ตอนนี้ส่งผลต่อระบบการค้าทั่วโลกแล้ว โดยเฉพาะสินค้าอย่างน้ำมันดิบ ที่ผลักดันให้ราคาน้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ สินแร่ต่างๆ ราคาพุ่งสูงขึ้นมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้อต่อไปแบบนี้ จะยิ่งทำให้การค้าโลกมีข้อจำกัดมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะสินค้าอย่างปุ๋ยและวัตถุดิบอาหารสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี และข้าวโพด จะมีราคาแพงขึ้นอีก เนื่องจากประเทศรัสเซียและยูเครน ถือเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญของโลก ขณะที่ประเทศไทยเองยังต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์และปุ๋ยจากต่างประเทศเป็นหลัก
เมื่อประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงเป็นประวัติการณ์ ย่อมทำให้ภาคการขนส่งสินค้ามีต้นทุนปรับเพิ่มขึ้นด้วย จนราคาปุ๋ยในประเทศแพงขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 64 ถึงปี 65 ซึ่งตอนนี้ตนเองได้กำชับทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหา ทั้งติดตามระดับราคาอาหารสัตว์และปุ๋ยให้ขึ้น-ลงสอดคล้องกับสัดส่วนต้นทุนที่แท้จริง ไม่ให้มีการกักตุน ฉวยโอกาสขึ้นราคา ขณะเดียวกันก็ให้เร่งกระจายการนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยและอาหารสัตว์จากแหล่งนำเข้าอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งใช้มาตรการอื่นในการอำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหา ลดอุปสรรคการผลิต การนำเข้า เพื่อลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการและเกษตกรด้วย
สำหรับปุ๋ยเคมี และอาหารสัตว์ จัดอยู่ในสินค้าควบคุมตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หากจะมีการปรับราคา กระทรวงพาณิชย์จะต้องพิจารณาคำร้องของผู้ประกอบการก่อน
ขณะที่นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางกระทรวงได้มีการตั้ง วอร์รูม ขึ้นมาติดตามความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าที่จะกระทบต่อต้นทุนการผลิตอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ความตรึงเครียดระหว่าง “รัสเซีย-ยูเครน” ยังไม่มีทีท่าจะจบลง ทำให้สินค้าหลายชนิดตอนนี้ได้รับผลกระทบเป็นอันมาก ทั้ง ข้าวโพด ปุ๋ยเคมี และอื่นๆ ทำให้ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องส่งผลให้ข้าวสาลีซึ่งเป็นวัตถุดิบอาหารเลี้ยงสัตว์เกิดการขาดแคลนมีราคาสูงขึ้น
เรื่องนี้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ได้ทำหนังสือเข้ามาถึงส่วนราชการ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ขอให้ส่วนราชการยกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลี 3:1 ออกไป เนื่องจากมีการกำหนดว่า หากผู้ประกอบการต้องซื้อข้าวโพดภายในประเทศ 3 ส่วนหากจะนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน พร้อมกับให้ยกเลิกภาษีนำเข้ากากถั่วเหลือง 2% และเปิดให้นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้กรอบ WTO และ AFTA เพื่อพยุงอุตสาหกรรมไม่ให้เกิดการหยุดชะงัก รวมถึงให้ผู้ประกอบการไทยได้มีทางเลือกจากแหล่งอื่นมาทดแทน
ทั้งนี้ การยกเลิกมาตรการเหล่านี้ ในสัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรฯ ได้มีการนัดหารือกันอีกครั้งหนึ่งเพราะมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน
FACT : ข้อมูลปี 2564 ไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีจาก 45 ประเทศปริมาณ 5,520,883 ตันมูลค่า 70,103 ล้านบาท โดย 5 ประเทศที่ไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีมากที่สุด ได้แก่ จีน นำเข้า 1.25 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 16,997 ล้านบาท สัดส่วน 22.75% ซาอุดีอาระเบีย นำเข้า 8.4 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 10,707 ล้านบาท สัดส่วน 15.3 % รัสเซีย นำเข้า 4.4 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 5,604 ล้านบาท สัดส่วน 8.06% โอมาน นำเข้า 3.6 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 4,381 ล้านบาท สัดส่วน 6.64% เกาหลีใต้ นำเข้า 3.3 แสนตัน คิดเป็นมูลค่า 3,417 สัดส่วน 6.14% |